บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด(มหาชน) (“MACO”) จัดตั้งเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2531 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรกจำนวน 600,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการและรับจ้างผลิตสื่อโฆษณาและบันเทิง มุ่งเน้นงานโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย (Out of Home media: OOH) โดยธุรกิจหลักของบริษัทคือการผลิตและให้บริการสื่อโฆษณาประเภทป้ายขนาดใหญ่ (Billboard) ซึ่งยังคงเป็นที่นิยมใช้ในการโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2546 บริษัท ได้จดทะเบียนแปรสภาพจากบริษัทจำกัด เป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 125 ล้านบาท และประสบความสำเร็จในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “MACO” จากนั้นย้ายเข้าสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี MACO ได้ให้บริการสื่อโฆษณาด้วยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เครือข่ายสื่อที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงในทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุดกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ ตอกย้ำแนวคิด Nationwide Integrated OOH Media Platform ในเมืองไทย

2563/64

สิงหาคม 2563

  • เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ลงมติอนุมัติการแก้ไขสัญญาบริหารจัดการเพื่อบริหารสื่อโฆษณา (“สัญญาบริหารจัดการสื่อโฆษณา”) ระหว่าง MACO และบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) (“PlanB”) โดยทำการปรับลดอัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำจากจำนวน 169 ล้านบาทต่อไตรมาส เป็นจำนวน 84 ล้านบาทต่อไตรมาส สำหรับไตรมาส 2 ปี 2563/64 (เดือนกรกฎาคม - กันยายน 2563) เนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย (Out-of-Home Media) ซึ่งรวมถึง PlanB ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19

กันยายน 2563

  • เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 VGI MACO (Singapore) Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MACO ได้ดำเนินการเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ VGI Vietnam Joint Stock Company ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการสื่อโฆษณานอกบ้านในประเทศเวียดนามในสัดส่วน 15.0% ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 208.6 ล้านดองเวียดนาม หรือเทียบเท่า 283 ล้านบาท
  • เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ลงมติอนุมัติให้ บริษัท ทรานส์.แอด โซลูชั่น จำกัด เข้าดำเนินการลงทุนในสัดส่วน 70.0% ในบริษัท Transad Viet Nam Joint Stock Company ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 66 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจงานด้านระบบครบวงจรไปยังประเทศเวียดนาม

มกราคม 2564

  • เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการแก้ไขสัญญาบริหารจัดการสื่อโฆษณาระหว่าง MACO และ PlanB เพื่อยกเว้นภาระหน้าที่ของ PlanB ในการชำระค่าตอบแทนขั้นต่ำสำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2563/64 นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 316 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากวิกฤตที่ยืดเยื้อจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งยังคงส่งผลกระทบอย่างมากต่อ PlanB อย่างไรก็ตาม MACO จะได้รับการชำระค่าตอบแทนขั้นต่ำล่วงหน้าจาก PlanB สำหรับปี 2564/65 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 700 ล้านบาท ซึ่งได้รับเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

เมษายน 2564

  • เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 VGI MACO (Singapore) Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MACO ได้เข้าลงทุนเพิ่มเติม 10.0% ในหุ้นสามัญของ VGI Vietnam Joint Stock Company ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 104.3 ล้านดองเวียดนาม หรือเทียบเท่า 142 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นทั้งสิ้นอยู่ที่ 25.0%
2563

มกราคม

  • MACO ได้เข้าลงทุน 50.0% ในบริษัท ฮัลโล บางกอก แอล อี ดี จำกัด ด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,950 ล้านบาท และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 1,080 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.4381 บาท ให้แก่บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) (“PlanB”) คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,553 ล้านบาท รวมถึงมอบหมายให้ PlanB เข้ามาเป็นผู้บริหารจัดการสื่อโฆษณาภายในประเทศทั้งหมดให้กับบริษัทฯ
2562

กรกฎาคม

  • MACO เข้าลงทุนเพิ่มเติม 30.0% ในโคแมส ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 160 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมดในโคแมสเพิ่มขึ้นเป็น 100.0% การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้จะช่วยให้ MACO มีอำนาจควบคุมการบริหารธุรกิจ และสามารถใช้สื่อของโคแมสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิงหาคม

  • VGM ได้เข้าลงทุนเพิ่มเติม 40.0% ในบริษัท Puncak Berlian Sdn. Bhd. (“PBSB”) ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 9.6 ล้านริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 72 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 65.0% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดย PBSB เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน ประกอบไปด้วย สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน สื่อโฆษณาในสนามบิน และสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน
2561

กรกฎาคม

  • MACO ได้เข้าลงทุนในบริษัท ทรานส์.แอด โซลูชั่น จำกัด (“ทรานส์ แอด”) ในสัดส่วน 81.7% โดยทรานส์ แอด เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการเชื่อมต่อระบบแสดงสื่อมัลติมีเดียแบบครบวงจร และต่อมาทรานส์ แอด ได้ลงทุนเข้าซื้อกิจการของ Roctec Technology Limited (“Roctec”) ในสัดส่วน 89.0% โดย Roctec เป็นผู้ให้บริการออกแบบและวางระบบ (System Integrations) เช่น ระบบควบคุม ระบบเชื่อมต่อ และระบบแสดงผลสื่อมัลติมีเดีย โดยดำเนินกิจการอยู่ที่ฮ่องกง

ตุลาคม

  • MACO ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ VGI ในสัดส่วน MACO 75.0% และ VGI 25.0% ภายใต้ชื่อ VGI MACO (Singapore) Private Limited (“VGIMS”) ซึ่งต่อมา VGIMS ได้เข้าทำสัญญาร่วมทุนกับ Sinarmas Group เพื่อขยายธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย

พฤศจิกายน

  • เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 MACO ได้รับการอนุมัติการลงทุนเพื่อปรับปรุงสื่อโฆษณาสตรีทเฟอร์นิเจอร์บริเวณตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอส จากป้ายภาพนิ่งเป็นสื่อดิจิทัล จำนวน 42 จอ และเปลี่ยนเป็นสื่อโฆษณา Light Box จำนวน 180 ป้าย โดยการลงทุนปรับปรุงสื่อครั้งนี้ทำให้กำลังการผลิตสื่อของ MACO เพิ่มขึ้น 300 ล้านบาท
  • MACO เข้าลงทุน 75.0% ใน บริษัท VGI Global Media (Malaysia) Sdn. Bhd. (“VGM”) ซึ่งการขยายกิจการไปยังประเทศมาเลเซียนี้จะช่วยขยายเครือข่ายสื่อโฆษณาของ MACO ให้ใหญ่ขึ้น และสร้างโอกาสในการรุกขยายเครือข่ายสื่อโฆษณาไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ธันวาคม

  • MACO เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท โกลด์ สตาร์ กรุ๊ป จำกัด (“GSG”) ในสัดส่วน 60.0% ของหุ้นทั้งหมด ด้วยมูลค่าการลงทุน 240 ล้านบาท โดย GSG คือผู้ให้บริการออกแบบ ผลิต และรับจ้างผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อโฆษณาทุกชนิด อาทิ งานพิมพ์ และติดตั้งสติ๊กเกอร์สื่อโฆษณารอบขบวนรถไฟฟ้า เป็นต้น
2560

มิถุนายน

  • บริษัท อาย ออน แอดส์ จำกัด บริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในบริษัท โคแมส จำกัด (“โคแมส”) ด้วยสัดส่วน 70.0% คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 335 ล้านบาท โคแมสเป็นผู้ประกอบกิจการป้ายโฆษณากลางแจ้ง ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 19 ปี ครอบครองทำเลติดตั้งป้ายโฆษณาใจกลางย่านธุรกิจสำคัญทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
2559

พฤษภาคม

  • VGI ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมของบริษัทฯ จำนวน 375 ล้านหุ้น (หรือ 12.5%) ทำให้ปัจจุบัน VGI มีสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ทั้งสิ้น 1,126 ล้านหุ้น (หรือ 37.4%) กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ภายหลังการควบรวมกิจการ VGI และ MACO ได้ร่วมกันกำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างสรรค์แคมเปญสื่อโฆษณาที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ทั้งสองบริษัทก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำการให้บริการเครือข่ายสื่อโฆษณาแบบครบวงจรภายในประเทศและอาเซียนได้เป็นอย่างดี

กันยายน

  • เข้าลงทุนใน บริษัท มัลติไซน์ จำกัด (“มัลติไซน์”) ในสัดส่วน 70.0% ผ่าน กรีน แอด บริษัทย่อย ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 100.0% และต่อมาในปี 2562 MACO ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม 30.0% ในมัลติไซน์ ทำให้ MACO มีอำนาจเด็ดขาดในการบริหารงานและสามารถใช้ประโยชน์จากป้ายโฆษณาของมัลติไซน์ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
2558

เมษายน

  • ขยายเครือข่ายสื่อโฆษณากลางแจ้งไปยังประเทศมาเลเซีย โดยจัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ บริษัท มาโก้ เอาท์ดอร์ จำกัด ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าลงทุน 40.0% ในบริษัท อายบอล ชาแนล จำกัด (“อายบอล ชาแนล”) โดย อายบอล ชาแนล คือบริษัทร่วมทุนระหว่าง MACO และพันธมิตรที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการสื่อโฆษณาในประเทศมาเลเซีย
2557

พฤษภาคม

  • บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) (“VGI”) ได้ขยายเครือข่ายสื่อโฆษณานอกบ้านผ่านการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในจำนวน 751 ล้านหุ้น หรือ 25.0% ของหุ้นทั้งหมด

กันยายน

  • เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากเดิม หุ้นละ 1.00 บาท เป็นหุ้นละ 0.10 บาท โดยราคาหุ้นใหม่ ซึ่งปรับตามการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้นั้น เริ่มซื้อขายตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2557

พฤศจิกายน

  • มาสเตอร์ แอนด์ มอร์ บริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท โอเพ่น เพลย์ จำกัด (“โอเพ่น เพลย์”) จำนวน 4 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 80.0% ของหุ้นทั้งหมด ซึ่งต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2561 บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ทั้งหมด ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ ถือหุ้นใน โอเพ่น เพลย์ คิดเป็นสัดส่วน 100.0% โอเพ่น เพลย์ ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียว จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการบริการสื่อโฆษณาภายในสถานีบริการน้ำมันปตท. จิฟฟี่ ทั่วประเทศไทย
2556

กันยายน

  • ย้ายเข้าสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์
2553

พฤศจิกายน

  • จัดตั้งบริษัท กรีน แอด จำกัด (“กรีน แอด”) ร่วมกับ บริษัท วีบิ๊ก จำกัด โดยถือหุ้นในสัดส่วน 51.0% เพื่อสนับสนุนงานผลิตสื่อของบริษัทในกลุ่ม และในปี 2557 บริษัทฯ ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน กรีน แอด เป็น 100.0%
2546

กันยายน

  • จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และประสบความสำเร็จในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “MACO” โดยเริ่มเข้าซื้อขายวันแรก ในวันที่ 29 กันยายน 2546
2544
  • ขยายธุรกิจไปสู่การบริหารพื้นที่โฆษณาบริเวณเสาตอม่อใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยบริษัทฯ ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวจาก บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด และต่อมาในปี 2548 ได้ขยายเครือข่ายไปยังพื้นที่โฆษณาบริเวณเสาตอม่อใต้สะพานข้ามแยก โดยได้รับสิทธิในการบริหารจากกรุงเทพมหานคร
2539

สิงหาคม

  • จัดตั้งบริษัท อิงค์เจ็ท อิมเมจเจส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับบริษัท อิงค์เจ็ท อิมเมจเจส (เอ็ม) เอสดีเอ็น บีเอชดี จำกัด ประเทศมาเลเชีย โดยถือหุ้นในสัดส่วน 50.0% เพื่อประกอบธุรกิจผลิตภาพด้วยระบบคอมพิวเตอร์อิงค์เจ็ทและสนับสนุนงานผลิตสื่อโฆษณาสำหรับบริษัทในกลุ่ม

กันยายน

  • จัดตั้งบริษัท มาสเตอร์ แอนด์ มอร์ จำกัด (“มาสเตอร์ แอนด์ มอร์”) ร่วมกับบริษัท เคลียร์ชาแนล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตสื่อโฆษณาชั้นนำจากประเทศอังกฤษ โดยถือหุ้นในสัดส่วน 50.0% เพื่อประกอบธุรกิจผลิตสื่อป้ายโฆษณานอกบ้านขนาดเล็ก และในปี 2553 บริษัทฯ ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน มาสเตอร์ แอนด์ มอร์ เป็น 100.0%
2531

กุมภาพันธ์

  • จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในนาม บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (“MACO”)